เตรียมออกหมายจับกลุ่มนายทุนนำเครื่องจักรขุดทำลายหัวเขาแดง

ผู้ว่าฯสงขลา ยันคดีบุกรุกแผ้วถางป่าและตัดทำถนนเป็นทางยาวบริเวณโบราณสถานเขาแดง อ.สิงหนคร รู้ตัวหนึ่งในผู้ก่อเหตุแล้ว คาดขออนุมัติศาลออกหมายจับได้ราววันศุกร์นี่ ด้านเจ้าหน้าที่ศิลปากรได้เริ่มเข้าทำการบูรณะฐานองค์เจดีบนเขาแดงที่ได้รับความเสียหายจากการขุดเจาะ และจะทำพิธีฤสักการะในวันเสาร์นี้
จากกรณีเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทางสำนักศิลปากรที่ 11 ได้ตรวจสอบพบกลุ่มนายทุนลักลอบนำเครื่องจักรขุดทำลายบริเวณหัวเขาแดง ซึ่งเป็นเขาสูง และเป็นพื้นที่ที่กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานบริเวณเมืองเก่าสงขลา ตั้งอยู่ใน ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ครอบคลุมเนื้อที่ราว 2,460 ไร่ ได้รับความเสียหาย โดยมีการโค่นล้มต้นไม้ และตัดถนนเป็นทางยาวขึ้นเขาประมาณ 2 กิโลเมตร กว้าง 4 เมตร และยังมีฐานองค์เจดีย์บนเขาแดงชำรุดเสียหายบางส่วน
ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่า น่าจะมีการลักลอบทำมานานสักระยะแล้ว เนื่องจากไม่พบทั้งตัวบุคคลและเครื่องจักรอยู่ในจุดเกิดเหตุ และทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หลังได้รับรายงานได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมี นายอำเภอ ตำรวจ สภ.สิงหนคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 11 นั้น
ล่าสุดวันที่ 2 มี.ค. 65 ทาง นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ได้แยกเป็น 2 ส่วน โดยเรื่องแรกเกี่ยวกับองค์เจดีย์บนเขาแดงที่ได้รับความเสียหายบริเวณฐานเจดีย์จากการลักลอบเข้าไปขุดเจาะ ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 1 และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้เริ่มเข้าไปทำการบูรณะซ่อมแซมฐานองค์เจดีย์เขาแดง และทำตามขั้นตอน รวมถึงพิธีการต่างๆของกรมศิลปกรแล้ว และคาดว่า น่าจะเสร็จในวันเสาร์นี้ และตนจะเดินทางไปร่วมทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และดำเนินการในส่วนของพิธีการต่างๆให้เสร็จสมบูรณ์ในวันเสาร์นี้เช่นเดียวกัน
และส่วนที่ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับคดี ซึ่งวานนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 11 ได้นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร แล้ว และยืนยันว่า ในคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ทราบตัวแล้ว 1 คน เป็นเจ้าของรถ และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาล จ.สงขลา ออกหมายจับ ซึ่งคาดว่า น่าจะได้ในวันศุกร์นี้ ซึ่งตนได้กำชับให้ทางพนักงานสอบสวนและตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนามากที่สุด รวมทั้งจะมีการแถลงในรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งในวันศุกร์นี้ด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวด้วยว่า ทางจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะเร่งสะสางคดีนี้โดยเร็วที่สุด รวมทั้งได้วางแผนการป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยร่วมกับชุมชน โดยการมอบหมายให้ทางนายอำเภอเป็นเจ้าภาพหลักในการประสานงานร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ในการช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้มีใครลักลอบเข้ามาทำลายโบราณสถานในลักษณะนี้อีก โดยได้มอบนโยบายเป็นแนวทางการปฏิบัติไว้ในที่ประชุมคณะกรรมการจังหวัดเมื่อครั้งที่ผ่านมา
และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนหากพบการบุกรุกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถาน หรือทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะในพื้นที่ไหนก็ตาม ให้รีบแจ้งทางจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ เพื่อเร่งเข้าทำการตรวจสอบ และยับยั้งได้ทันเวลา
/////

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *