“บิ๊กโจ๊ก” ร่วม ปปง. บุกค้น ยึดทรัพย์ คดีค้ามนุษย์ 9 จังหวัด 11 จุดทั่วประเทศ
ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งรัดปราบปรามการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบและใช้มาตรการยึดทรัพย์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเพื่อตัดความสามารถในการกลับมากระทำความผิดซ้ำอีก
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศพดส.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. ดำเนินการ โดยประสานความร่วมมือกับ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขา ปปง. , พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ผอ.คด.๔ ปปง. เจ้าหน้าที่ ปปง.และชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ร่วมกันวางแผนตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์และฐานความผิดที่เกี่ยวข้องในคดีอาญาฟอกเงิน
พฤติการณ์ ในคดีกล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.8 ได้จับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ในพื้นที่ สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และในวันที่ 6 กันยายน 2564 ยังสามารถจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ สภ.มาบอำมฤต จ.ชุมพร และ สภ.เขานิพันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี และได้ดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
ขบวนการดังกล่าวนั้นมีการขนส่งแรงงานชาวเมียนมา จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อไปส่งประเทศปลายทางที่มาเลเซีย และต่อมาศาลจังหวัดทุ่งสง ได้มีคำพิพากษาจำเลยที่ถูกจับกุม สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 5 คน ในความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยศาลพิพากษาจำคุกผู้ต้องหา 6 ปี จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา พบว่ามีความเชื่อมโยง กับขบวนการค้ามนุษย์ และเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ปปง. ได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีในความผิดอาญาฟอกเงินอันเป็นมูลฐานความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ปปง. พบเส้นทางการเงินที่เข้าข่ายคดีอาญาฟอกเงินของกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหา ในพื้นที่ 9 จังหวัด จึงได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารและขอหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้น พื้นที่ 11 เป้าหมาย ใน 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ตาก ชุมพร นราธิวาส ยะลา เพชรบูรณ์ และอุดรธานี โดยผลการตรวจค้น สรุปการดำเนินการได้ ดังนี้
1. อายัดบัญชีธนาคารของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 27 บัญชี พบเงินหมุนเวียนในบัญชีดังกล่าวรวมกว่า 650 ล้านบาท
2. อายัด ยึด บ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 6 หลัง ที่ดินเปล่า 2 แปลง รถยนต์ 7 คัน รถจักรยานยนต์ 5 คัน แอร์ 12 เครื่อง ตู้เย็น 7 เครื่อง โทรทัศน์ 7 เครื่อง โต๊ะสนุกเกอร์ 2 โต๊ะ มูลค่ารวมประมาณ 25,885,000 บาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวที่ตรวจยึดอายัด จะดำเนินการส่งมอบให้ สภ.มาบอำมฤต จว.ชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า “ในการบูรณาการร่วมกันของทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร. และเจ้าหน้าที่ ปปง.นี้ จะร่วมกันดำเนินการตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล และจะทำการสืบสวนขยายผลไปยังทรัพย์สินของบุคคลชั้นที่ ๒ ได้แก่ ญาติพี่น้อง ครอบครัว ที่มีทรัพย์สินที่มีความเกี่ยวข้อง หรือได้มาจากการกระทำผิดฐานดังกล่าว เพื่อทำการยึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป”