หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส สืบสาน วิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ แปลงนาบ้านโคกยาง

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่ แปลงนาบ้านโคกยาง หมู่ที่ 5 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางมาเป็นประธาน เปิด กิจกรรม สืบสาน วิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี นายอำเภอตากใบ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตากใบ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ประธานองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ผู้นำท้องที่ และประชาชนชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม ในพื้นที่ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
 
ทั้งนี้ พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ เกิดขึ้นโดยหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ร่วมกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส ได้จัดกิจกรรมสืบสานวิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” เพื่อการฟื้นฟู รักษาประเพณี อันสวยงามในการร่วมมือ ร่วมใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ของสังคมพหุวัฒนธรรม ของพี่น้องประชาชนไทยพุทธ พี่น้องประชาชนไทยมุสลิม ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีต ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ไม่ใช่มีแค่เรื่องดำนายังมีเรื่องกินเหนียวงานแต่ง งานฮารีรายอ ที่คนสมัยก่อนได้ทิ้งไว้เป็นมรดก มันเป็นนัยยะสำคัญของภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน ในกระบวนการสร้างความรัก สร้างความเข้าใจต่อกัน การสร้างสภาวะแวดล้อม ให้เกื้อกูลต่อการหนุนเสริมความไว้วางใจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย ที่จะนำไปสู่เพื่อความสันติสุข นำสู่แนวคิดความเป็น“พลเมืองในบริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม” กระตุ้นให้เกิดกลไก การจัดการชุมชนตามธรรมชาติ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ศักยภาพผู้นำและประชาชน ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ทรัพยากร ภูมิปัญญาและวิถีชุมชนที่ยั่งยืน เนื่องด้วยอำเภอตากใบ เป็นแหล่งปลูกข้าวของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ มีการปลูกสืบทอดกันจนเป็นวิถีชีวิต แต่ด้วยสภาพความเปลี่ยนไป ของบริบททั้งด้านสังคมและพื้นที่ ทำให้พื้นที่ทำนาลดลง แต่ข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญ ในการสร้างความมั่นคงในครัวเรือนและชุมชน กระผมต้องขอชื่นชมท่านทั้งหลาย ที่รวมกลุ่มกันปลูกข้าว ร่วมกันพัฒนาการผลิตและการตลาด โดยกิจกรรมการลงแขกดำนาในวันนี้ นอกจากจะเป็นการลดต้นทุนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความรัก ความสามัคคี เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความร่วมมือของคนในชุมชน พี่น้องประชาชนไทยพุทธ พี่น้องประชาชนไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งมีความหลากหลาย ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ให้สอดคล้องกับนโยบาย ของกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ต้องการให้พี่น้องประชาชน มีส่วนร่วมในกระบวนการเสริมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน และพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้ดีขึ้น เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นำมาสู่การอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุขที่แท้จริงในสังคม
 
โดยกิจกรรม สืบสาน วิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีวัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นฟู รักษา วิถีลงแขกดำนา และการทำนาโดยใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม และการแสดงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สู่แนวคิดความเป็น “พลเมืองไทยในบริบทสังคมพหุวัฒนธรรม” น้อมนำศาสตร์พระราชา และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประพฤติปฏิบัติอย่างจริงจัง ซึ่งสำหรับแปลงนา ที่มาจัดกิจกรรมดำนาในวันนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีขนาดพื้นที่จำนวน 6 ไร่ เป็นของ นางซารีนะ ดอเลาะ สมาชิกกลุ่มองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 174/3 หมู่ที่ 5 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สำหรับกิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นได้จาก ประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีจิตสาธารณะ ให้การสนับสนุนช่วยเหลือคนในชุมชนและให้ความร่วมมือ กับส่วนราชการเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *