พังงา-สุดเด็ด…สวนองุ่นปลอดสารพิษบนเกาะกลางทะเลอันดามัน รสชาติแสนอร่อยต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 นางอุษณี เจียมรา เกษตรอำเภอเกาะยาว นำผู้สื่อข่าวเยี่ยมชมแปลงปลูกองุ่นปลอดสารพิษสวนครูหมาด บนเกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา ของนางกัลยาณี อ่อนทอง เกษตรกรต้นแบบ (Smart Farmer) ซึ่งใช้ชีวิตตามหลักปรัชญา “ของเศรษฐกิจพอเพียง” สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยสวนตั้งอยู่ที่บ้านท่าค่าย ม.1 ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา เป็นสวนเกษตรผสมผสานในพื้นที่ 1.5 ไร่ โดยปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น มะละกอ กล้วยหอม ฝรั่ง เสาวรส มัลเบอร์รี่มะพร้าวน้ำหอม แก้วมังกร มะนาว พืชผักสวนครัว เพาะถั่วงอก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ไว้บริโภคในครัวเรือนและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม และด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด- 19 ได้คิดสวนกระแสหันมาปลูกพืชมูลค่าสูงในโรงเรือน คือ องุ่น ซึ่งแต่เดิมเคยปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และผักในโรงเรือนระบบปิด ขนาด 6X20เมตร ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรจังหวัดพังงาและสำนักงานเกษตรอำเภอเกาะยาว เพื่อเป็นจุดเรียนรู้การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ สนับสนุนการท่องเที่ยวของอำเภอเกาะยาว แต่มาระยะหลังความนิยมบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ลดลง จึงได้มีความคิดในการปลูกพืชมูลค่าสูง โดยการลองผิด ลองถูก เพื่อหาประสบการณ์ไม่ว่าจะเป็นแตงโมเมล่อน แตงกวาญี่ปุ่น ซึ่งได้รับผลตอบรับดีพอสมควร ด้วยความเป็นคนขยัน ใฝ่รู้อยู่ตลอดเวลา เลยมีความคิดว่า องุ่น เป็นพืชที่คนนิยมบริโภค และตลาดมีความต้องการสูง แต่ผู้บริโภคไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและภาคใต้ยังไม่ค่อยมีผลผลิต เป็นความท้าทาย ถ้าทำได้จะทำให้คนเกาะยาว และนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนเกาะยาวได้บริโภคผลไม้สด อีกทั้งความได้เปรียบในสภาพพื้นที่ที่เป็นเกาะ ทำให้มีน้ำทะเลซึมเข้ามาผลผลิตที่ได้จึงมีรสชาติดี ปลอดภัย ราคาที่จับต้องได้ จึงได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่โรงเรือนที่เคยปลูกผักมาปลูกองุ่นแทนและทำโรงเรือนเพิ่มขึ้นอีก 2 โรง โดยเริ่มทดสอบปลูกองุ่นสายพันธ์ต่างๆเพื่อหาพันธุ์ที่เหมาะสม ได้แก่พันธุ์ไวท์มะละกา พันธุ์แบล็คโอปอล พันธุ์บิวตี้ซีดเลส พันธ์เวเลส และอีกหลายสายพันธุ์
และล่าสุดองุ่นพันธ์ เวเลส Veles กำลังให้ผลผลิตที่สมบูรณ์สวยงามเต็มโรงเรือน ถึงระยะที่จะต้องเก็บเกี่ยวพอดี เมื่อนักท่องเที่ยวและผู้สื่อข่าวได้ทดสอบรสชาติ พบว่ามีรสชาติที่หวานเป็นอย่างมาก มีกลิ่นเฉพาะตัวล้ำลึกไม่เหมือนกับองุ่นที่เคยกินมาก่อนเลย และได้ความรู้สึกที่ปลอดภัยเพราะเป็นองุ่นปลอดสารพิษ ซึ่งทางสวนตัดจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 200 บาท และพบว่าผลผลิตที่ได้ไม่พอกับยอดการจองทั้งหมด เนื่องจากอำเภอเกาะยาวเป็นที่นิยมในด้านการท่องเที่ยวของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงได้เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยการเตรียมทำร้านขายกาแฟแลอาหารให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสวนองุ่น ได้พักผ่อนทานกาแฟ ของทานเล่นชิลๆ ภายใต้ชื่อร้าน Hornbill Cafe
นางกัลยาณี อ่อนทอง กล่าวว่า ได้ไปอบรมที่สำนักงานเกษตรจังหวัดพังงา มีคนเขามาบรรยายเรื่องการปลูกองุ่น ก็รู้สึกว่าสนใจรู้สึกว่าชอบก็เลยกลับมาศึกษาและก็ซื้อพันธุ์มาปลูกเลยโดยจะเน้นความปลอดภัยไว้ก่อนใช้สารชีวภาพ สารชีวภัณฑ์เป็นอันดับแรก เพื่อให้ปลอดภัยกับตัวของเราแล้วก็ครอบครัวของเราแล้วก็คนที่มาซื้อองุ่น จากการทดลองปลูกพบว่าพันธุ์เวเลส Veles ให้ผลผลิตดีมากแถมองุ่นที่ปลูกบนเกาะยาวมีรสชาติที่โดดเด่นเฉพาะตัวจากการที่ใช้ใบไม้ที่ทับถมอยู่ในทะเลและใบสนมาเป็นปุ๋ย ล่าสุดได้ต่อยอดเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพร้อมเตรียมเปิดร้านกาแฟเล็กๆใช้ผลผลิตภายในสวนมาประกอบเป็นเมนูอาหาร
นางอุษณี เจียมรา เกษตรอำเภอเกาะยาว ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำนักงานเกษตรอำเภอเกาะยาวได้สร้างความตระหนักให้กับเกษตรกรในการอยู่ได้ และอยู่ดีตลอดมา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 สำหรับสวนครูหมดทางสำนักงานเกษตรอำเภอเกาะยาวก็ได้สนับสนุนโรงเรือนขนาด 6 * 20 เมตร โดยเราก็ได้เน้นไปตรงที่ให้เกษตรกรได้ลดต้นทุนการผลิตด้วยการใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น เพื่อลดต้นทุนการผลิตพร้อมกับเน้นให้กับเกษตรกรผลิตให้ปลอดภัย และที่สำคัญก็คือเราใช้การตลาดนำการผลิต ให้มีการวิเคราะห์ก่อนว่าพืชอะไรที่มีความเป็นไปได้บนเกาะตามศักยภาพที่เราทำได้ โดยให้สำรวจตลาดว่าความต้องการบนเกาะมีขนาดไหน ซึ่งผลไม้ส่วนใหญ่จะนำมาจากข้างนอก ถ้าเราสามารถที่จะผลิตเองได้บนเกาะก็จะทำให้เราได้เปรียบในเรื่องของความสดความสะอาดแล้วก็ปลอดภัย อีกอย่างก็อำเภอเกาะยาวมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ จึงสนับสนุนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกจุดหนึ่งในอำเภอเกาะยาว