สถานีรถไฟยะลาเงียบเหงา หลังรถไฟลง 3 จชต.ประกาศหยุด ชี้ ไม่มั่นใจในความปลอดภัย

จากกรณีที่มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนได้ลอบวางระเบิดรถไฟขบวนที่ 452 สถานีสุไหงโก-ลก – นครศรีธรรมราช ในพื้นที่บ้านสามยอด หมู่ที่ 8 อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้พนักงานรถไฟได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 13 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา
วันนี้ 14 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า บรรยากาศที่สถานีรถไฟยะลา เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เงียบเหงาเป็นกรณีพิเศษ มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานีรถไฟยะลา ที่เดินตรวจความปลอดภัย ภายในบริเวณสถานี และมีแม่ค้า
หาบเร่บนสถานีรถไฟ จำนวนหนึ่งรอลูกค้า นอกจากนั้นยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่ทราบข่าวว่ารถไฟที่มุ่งหน้าลงไปยัง 3 จังหวัดชายแดนใต้ หยุดให้บริการ เดินทางมาติดต่อสอบถามข้อมูล ตารางการโดยสารรถไฟ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย มีมติหยุดเดินรถสายใต้จากสถานีต้นทางสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทุกขบวน ยกเว้นขบวนรถเร็ว 171 กรุงเทพฯ – สุไหงโก-ลก ที่จะเปิดให้เดินรถมาส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ในวันนี้ 14 ธ.ค.64 เป็นเที่ยวสุดท้าย ทำให้ตั้งแต่วันนี้ รถไฟขบวนท้องถิ่นทุกขบวนจากสถานีต้นทางสุไหงโก-ลก จะหยุดเดินรถทั้งหมด ยกเว้นรถเร็วขบวน 171 กรุงเทพฯ – สุไหงโก-ลก ที่จะสิ้นสุดปลายทางที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จากนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 15 ธ.ค.64 รถไฟทุกขบวนจะปิดการเดินรถอย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้ทุกส่วนหามาตรการป้องกันการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบกับขบวนรถไฟ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานรถไฟ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไปสำหรับผู้โดยสารที่จองตั๋วไว้แล้ว สามารถขอรับเงินค่าโดยสารคืนได้เต็มจำนวน ณ สถานีรถไฟใกล้บ้าน
ทางด้าน น.ส.อามีเนาะ เปาะเลาะ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าผลไม้บนสถานีรถไฟยะลา กล่าวว่า ตนเองได้รับผลกระทบอย่างมากจริงๆพอได้ยินข่าวสารว่ารถไฟถูกระเบิดหรือว่าเกี่ยวกับสถานการณ์เส้นทางเดินรถไฟ คือตอนนี่ตนเองรู้สึกเครียดมาก รู้เลยว่าต้องมีผลกระทบแน่นอน เพราะว่าตนเองคนเดียวที่เป็นแม่ค้า ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับรถไฟจะเดือดร้อนกันหมดเลย พี่น้องประชาชนก็ที่ได้รับผลกระทบหมดเหมือนกัน ถ้าถามว่าจะทำอย่างไรคือต้องทำใจอย่างเดียวตอนนี้ รถไฟจะหยุดโดยไม่มีกำหนดจะให้บริการต่ออีกเมื่อไหร่ ? นั้นคือปัญหาใหญ่สำหรับแม่ค้าทุกคน แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่กลัวจากสถานการณ์คือกลัวอดตายมากกว่า กลัวอดเพราะมีภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลลูกๆที่อยู่ที่บ้าน คำว่ากลัวอยู่ข้างหลังไปแล้ว ข้างหน้าคือกลัวอดตายมากกว่าจริงๆ ถ้ารถไฟยังวิ่งอยู่แม่ค้าทุกคนบอกว่าสู้ตาย แม้ว่าขายจะไม่ค่อยดีก็ตาม ถ้ารถไฟหยุดเดินวิ่งไม่รู้จะทำอย่างไร ?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *